พิธีรับศีลมหาสนิทครั้งแรกและพิธีศีลกำลัง
ณ วัดนักบุญโทมัส อไควนัส มีนบุรี
พิธีรับศีลมหาสนิทครั้งแรกและพิธีศีลกำลัง
ณ วัดนักบุญโทมัส อไควนัส มีนบุรี
หน้าแรก > ข่าวสารคณะ > พิธีรับศีลมหาสนิทครั้งแรกและพิธีศีลกำลัง วัดนักบุญโทมัส อไควนัส มีนบุรี
พิธีรับศีลมหาสนิทครั้งแรกและพิธีรับศีลกำลัง
ณ วัดนักบุญโทมัส อไควนัส มีนบุรี
โดย พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี
ประมุขสังฆมณฑลราชบุรี
ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2025
ในวันนี้ พระคุณเจ้าฯ ได้ให้ข้อคิดและแนวทางชีวิตที่ลึกซึ้งและเปี่ยมด้วยความหมายแก่ผู้ที่กำลังจะเข้ารับศีลมหาสนิทครั้งแรกและผู้ที่จะเข้ารับพิธีศีลกำลัง รวมถึงผู้ร่วมพิธีทุกท่าน โดยทรงเน้นย้ำถึงความหมายของ "มิตรภาพแท้กับพระเจ้า" ซึ่งเป็นพันธสัญญาใหม่ที่พระเยซูเจ้าทรงมอบแก่เหล่าสานุศิษย์ เพื่อให้เราได้เข้ามามีส่วนร่วมในความรักและความจริงของพระองค์
ในพระวรสารนักบุญยอห์น ได้กล่าวถึงความสำคัญของศีลศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร ซึ่งเป็นหนทางที่ทำให้เราทุกคนได้มีส่วนร่วมในพระหรรษทานของพระเจ้า และเป็นเพื่อนที่สนิทกับพระองค์ การได้ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าผ่านศีลมหาสนิทและศีลกำลังนี้ จึงไม่เพียงเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการตอบสนองต่อคำเชื้อเชิญของพระเจ้าในการดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อและความรัก
พระบัญญัติที่พระเยซูเจ้าทรงประทานแก่เรานั้น มีรากฐานมาจากกฎหมายของชาวยิว แต่พระองค์ทรงสรุปไว้เพียงคำเดียว คือ "ความรัก" พระองค์ตรัสว่า “จงรักเพื่อนพี่น้องและเพื่อนบ้านเหมือนที่พระองค์ทรงรักเรา” ซึ่งเป็นคำสอนที่ลึกซึ้งและทรงพลัง หมายถึง เราต้องรักทุกคน ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ด้วยความรักที่เสียสละและไม่มีเงื่อนไข
สำหรับผู้ที่จะรับศีลมหาสนิทครั้งแรกและศีลกำลังในวันนี้ นอกจากจะเป็นการรับศีลเพื่อความรอดพ้นแล้ว ยังเป็นการตัดสินใจที่จะมอบชีวิตตนเองเพื่อผู้อื่น ดังเช่นที่พระเยซูเจ้าทรงมอบชีวิตของพระองค์เพื่อเราทุกคน พระองค์ทรงสอนเราด้วยความรักที่เรียกว่า "อะกาเป" (Agape) ซึ่งเป็นความรักที่ไม่เห็นแก่ตนเอง เป็นความรักที่เสียสละ เพื่อประโยชน์และความดีงามของผู้อื่น แม้จะไม่ได้รับผลตอบแทน ความรักนี้เองที่เป็นเสาหลักของชีวิตคริสตชน และเป็นแบบอย่างที่เราทุกคนต้องดำเนินรอยตาม
ความรักที่เปี่ยมด้วยความยินดีนี้ จะเป็นพลังที่สนับสนุนให้เราก้าวเดินในพันธกิจชีวิตของเรา ไม่ว่าจะในครอบครัว ในชุมชน หรือในสังคมกว้าง พระคุณเจ้าฯ ยังได้เตือนใจว่า การฟังคำสอนของพระเยซูเจ้าไม่ใช่เพียงเพื่อการเรียนรู้เท่านั้น แต่ต้องเป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงชีวิต และทำให้ทุกการกระทำและพันธกิจของเรากลายเป็นพันธกิจแห่งความรัก และความเมตตา ซึ่งพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ก็ได้ตรัสไว้ในการเทศน์ของพระองค์ว่า “เราทุกคนต้องเป็นธรรมทูตแห่งความรัก ทั้งในครอบครัวและในสังคม”
ในบทจดหมายนักบุญเปาโล เราได้ยินถึงผลของพระจิตเจ้า ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเราทุกคนให้กลายเป็นคนใหม่ ผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรมและพระพรของพระเจ้า เช่น ความรัก ความยินดี สันติ ความเมตตา ความอดทน ความซื่อสัตย์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คือผลผลิตที่เบ่งบานจากชีวิตที่เต็มไปด้วยพระจิตเจ้า ทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตอย่างเป็นเพื่อนกับพระเจ้า และเป็นธรรมทูตแห่งความรักและเมตตาในโลกที่กำลังต้องการแสงสว่างแห่งความจริง
รูปภาพ: เพจ บันทึก: ฉลองวัด https://www.facebook.com/profile.php?id=100068167478138