ฉลอง 130 ปีชุมชนแห่งความเชื่อ

วัดแม่พระลูกประคำ เวียงคุก

หน้าแรก > ข่าวสารคณะ > ฉลอง 130 ปีแห่งความเชื่อวัดแม่พระลูกประคำ เวียงคุก

ฉลอง 130 ปี ชุมชนแห่งความเชื่อวัดแม่พระลูกประคำ: พระเจ้ารู้ดีที่สุด

Date: Oct 30, 2024

การฉลองวัดประจำปีของวัดแม่พระลูกประคำ บ้านเวียงคุก จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีแต่ก็เต็มไปด้วยการทดลองความเชื่อและความไว้ใจ 

การไม่ลงตัวแรกเลยก็คือ “วันฉลอง” ปกติเราจะฉลองวัดในวันเสาร์แรกของเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือนฉลองแม่พระลูกประคำ เดือนสวดสายประคำและเป็นเดือนที่ฝนยังชุกอยู่ การฉลองปีที่แล้ว 2566 นางรำรำต้อนรับพระสังฆราชท่ามกลางสายฝน ปีนี้เราฉลอง 130ปี ชุมชนแห่งความเชื่อวัดแม่พระลูกประคำ บ้านเวียงคุกของเราด้วย แต่เราไม่สามารถที่จะจองวันฉลองให้เป็นวันเสาร์แรกของเดือนตุลาคมได้ วันที่ได้ไปตกที่วันเสาร์ที่ 14 เดือนกันยายน 2567 ทั้งพ่อเจ้าวัดและลูกวัดต่างก็เสียใจที่ไม่ได้วันฉลองเดิม ก็มีคนบอกว่าฉลองวันเดิมก็ได้หนิ แต่พวกเราตอบว่าเราต้องการให้พระสังฆราชมาร่วมฉลองกับเรา... ก็ต้องยอมรับวันที่ 14 กันยายน 2567 ไป... จะเสียใจไปใยกัน...ก็ยังดีกว่าปีนี้ไม่ได้ฉลอง

เมื่อได้วันฉลองการเตรียมงานก็เริ่มเป็นระยะ ๆ โดยการเรียกประชุมสภาภิบาลวัด ทำการ์ดเชิญ ติดต่อโรงทาน  ปีนี้ของชำร่วยวันฉลองคือน้ำยาล้างจานที่ทำจากน้ำมะนาวสดของชาวบ้านแต่ละบ้านที่มีมะนาวนำมารวมกันและช่วยกันผสม บรรจุขวด ติดสติกเกอร์ซึ่งได้เตรียมไว้กว่า 1 พันขวด มีการซ้อมเพลงของนักขับร้องกว่า 2 เดือนโดยได้ทีมนักขับร้องจากวัดรอบ ๆ รวมตัวกันโดยมีทีมเยาวชนจากวัดดอนหวายเป็นหลักฝึกร้องโดยครูวิมลรัตน์ คุณหนุ่ยและเซอร์มารีย์ กันดิ๊ด และได้รับการสนับสนุนอาหารเย็นในช่วงซ้อมขับร้องจากโรงเรียนโรซารีโอวิทยาประสานงานจากเซอร์เลโอนี และเพื่อเป็นการช่วยวัดเตรียมฉลองวัดเซอร์สแตลลาได้ดำริให้มีการหยุดเรียนในวันพฤหัสฯและวันศุกร์เพื่อเป็นการเตรียมฉลองในวันเสาร์ 

และที่จะต้องมีคือการเตรียมจิตใจชาวบ้านก่อนการฉลอง โดยมีการเตรียมจิตใจชาวบ้าน 3 ครั้ง ครั้งแรกวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2567 โดยคุณพ่อเจ้าวัดเอง ครั้งที่สองวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 โดยทีมงานพระคัมภีร์ของคุณณัฐสิทธิ อัฐธรรมรัตน์ และครั้งที่สามวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 โดยคุณพ่อไมเคิล พิชาญ  ใจเสรี คณะพระมหาไถ่ ซึ่งมีการแห่แม่พระรอบหมู่บ้านด้วยในเย็นวันเดียวกันนี้ และในคืนวันเดียวกันนี้เองน้ำในแม่น้ำโขงเริ่มล้นตลิ่งขึ้นมาถึงถนนริมโขงหลังวัด ซึ่งกรมอุตุฯได้เตือนให้เฝ้าระวังในช่วงวันที่ 13-17 ก.ย. 67 เช้าของวันศุกร์ที่ 13 ก.ย. น้ำเริ่มท่วมล้นถนนริมโขงและไหลเข้าในบริเวณสุสานจนเต็มและเริ่มไหลมายังตัววัด แต่ทางวัดก็ยังคงจัดดอกไม้ด้วยความมุ่งมั่นโดยการนำทีมของเซอร์เจนและครูลัดดา จัดวัดและผูกผ้าตามเต็นท์โดยทีมงานครูจากโรงเรียนโรซาริโอวิทยา เตรียมอาหารสำหรับโรงทานโดยทีมงานพลมารีย์และสภาภิบาลวัด เตรียมคณะฟ้อนรำต้อนรับพระสังฆราชโดยผู้ช่วยยุพินและรองปุ้ม 

ทุกอย่างถูกเตรียมการตามปกติในขณะที่ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นจนถึงตัววัด จนที่สุดเราต้องนำกระสอบทราบมากั้นไม่ให้น้ำเข้าวัด..ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ .. และเริ่มมีการโทรศัพท์เข้ามาถามว่ายังจะมีการแห่แม่พระและฉลองวัดอยู่หรือไม่?.. ยังไม่สามารถให้คำตอบได้เพราะทุกอย่างเตรียมพร้อมที่จะฉลองแล้ว จะยกเลิกคงจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ดี จะจัดให้มีการฉลองก็คงทุลักทุเลพอสมควร เจ้าวัดเริ่มฟุ้งซ่านแล้วสิ...”จะมีใครมาร่วมฉลองกับเราไหมถ้าน้ำท่วม?” ยังคงเป็นคำถามในใจ คพ.เจ้าวัด แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าพระเป็นเจ้าต้องการให้เราฉลองในสภาพไหน เราก็ต้องฉลองในสภาพนั้น เพราะถ้าไม่พระเจ้าคงจะไม่ปล่อยให้เราเตรียมงานมาได้จนถึงขั้นนี้... ที่สุด คพ.เจ้าวัดได้โทรแจ้งและสอบถามพระสังฆราช (ผู้ที่เรายอมเลื่อนวันฉลองเพราะอยากให้ท่านมาร่วมฉลองกับเรา) คพ.เจ้าวัดแจ้งพระสังฆราชว่า “น้ำท่วมวัดของเราครับ แต่เรายังจะจัดให้มีการฉลองวัดถึงแม้ว่าจะมีแค่ 10 คนที่จะฉลองร่วม ไม่ทราบว่าพระคุณเจ้าจะยังจะมาฉลองวัดกับพวกเราไหมครับ?” พระคุณเจ้าตอบกลับมาว่า “ไปสิ ไปร่วมทุกข์ด้วยกันกับชาวบ้าน” ด้วยคำตอบของพระสังฆราช การเตรียมงานทุกอย่างก็เร่งเครื่องมุ่งสู่การฉลองอย่างเต็มรูปแบบท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่มีรูปแบบที่คาดเดาได้... คพ.เจ้าวัดได้โพสในเพจของวัดว่าการฉลองและการแห่แม่พระยังคงดำเนินตามวันและเวลาที่กำหนด แต่ให้ทุกคนที่จะมาร่วมฉลองกับเราพร้อมที่จะลุยน้ำและลำบากกับพวกเราและพระสังฆราช... 

ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมายที่เราไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะให้เป็นไปอย่างนั้น ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นกระสอบทรายที่กั้นน้ำไม่ให้เข้าวัดก็เพิ่มสูงขึ้นจนเกือบถึงระดับเข่า ช่างไฟของโรงเรียนแจ้งว่าจำเป็นต้องตัดไฟในบริเวณวัดและโรงเรียนทั้งหมด... นั้นก็หมายความว่ามิสซาฉลองภายในล่วงหน้าในคืนวันศุกร์นี้เราจะไม่มีไม่มีไฟฟ้า... ใช่ครับ เราทำการฉลองภายในภายใต้แสงเทียนและไฟจากมือถือ หลังมิสซาทีมงานดอกไม้ก็จัดต่อให้เสร็จ และทีมงานวิดน้ำออกจากวักก็เริ่มงานทันที พวกเราช่วยกันวิดน้ำทั้งคืนโดยได้รับการช่วยหาเครื่องปั่นไฟจา คพ.บำรุง เจ้าวัดไผ่สีทอง ในค่ำคืนที่เรากำลังวิดน้ำออกจากวัดอยู่ฝนก็เทลงมาห่าใหญ่ ระดับน้ำก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนทีมงานวิดน้ำ 4-5 คนแทบจะรับมือไม่ไหว แต่จะหมดใจไม่ได้ เพราะในวัดนี้คือที่ที่เราจะถวายมิสซาฉลองร่วมกัน 

ในที่สุดเช้าวันฉลองก็เริ่มขึ้น เสาร์ที่ 14 ก.ย. 67 ระดับน้ำสูงขึ้นจนเลยระดับเข่า น้ำท่วมทั่วบริเวณรอบ ๆ วัดตั้งแต่ทางเข้าโรงเรียน ยังคงมีแต่ในวัดเท่านั้นที่เราป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปได้..อย่างน้อยก็จนกว่ามิสซาฉลองจะเสร็จสิ้น.. ขบวนแห่แม่พระจากวัดต่าง ๆ เริ่มเคลื่อนเข้าสู่บริเวณหน้าโรงเรียน และพระสังฆราชเดินทางมาถึงโรงเรียนในเวลา 9:00 น. พระคุณเจ้าถวายพรและถวายช่อดอกไม้แด่แม่พระจากแต่ละวัด ท่านก็ลงเรือเข้าสู่บริเวณงานฉลองและวัดแวะไหว้แม่พระข้างทาง บรรจุพระธาตุในสักการะสถานและนั่งเรือต่อไปยังวัดเพื่อเริ่มพิธีฉลองวัด ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีถึงแม้ว่าจะมีความยากลำบากไม่สะดวกบ้าง มีสัตบุรุษมาร่วมฉลองกับเรามากมายเกินความคาดหมายแม้กระทั่งสัตบุรุษจากวัดนักบุญโทมัส อไควนัส มีนบุรี ก็มาร่วมฉลองและให้กำลังใจเรา พระสงฆ์จากวัดต่าง ๆ ก็พร้อมใจมาให้กำลังใจเรา โรงทานจากที่ต่าง ๆ ก็ยังคงมาร่วมฉลองกับเรา... 

เมื่อมิสซาฉลองจบ ทุกอย่างสิ้นสุด การรับประทานอาหารร่วมกัน เจ้าวัดส่งแขกและพระสังฆราช การจัดการจัดเก็บก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ของในวัดถูกยกขึ้นที่สูง เก้าอี้นั่งในวัดถูกนำวางซ้อนกัน ดอกไม้บนพระแท่นถูกรื้อเก็บ.. และที่สุดระดับน้ำก็สูงขึ้นจนล้นระดับกระสอบทรายที่กั้นไว้... น้ำไหลเข้าวัดโดยไม่ไว้หน้าเจ้าวัดเลย... ซึ่งนั้นก็หมายความว่าน้ำได้เข้าคลุมทุกพื้นที่ของวัด.. 

ยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้... ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนปริ่มจะไหลเข้าบ้านพักพระสงฆ์ ในคืนวันที่ 14 ก.ย. นั้นเอง พายุเข้าอีกลูกฝนตก ฟ้าคะนอง ลมแรง... เช้าวันรุ่งขึ้นต้นสักขนาดใหญ่ข้างศาลาอเนกประสงค์ล้มใส่หลังคาศาลา... ระดับน้ำทรง ๆ ในวันที่ 15 ก.ย. จนที่สุดเช้าวันที่ 16 ก.ย. ระดับน้ำเริ่มลดลง.. การจัดเก็บทำความสะอาดก็เริ่มขึ้นในทันทีจนถึงวันนี้เรายังคงต้องรับมือกับพื้นวัดที่ยังคงมีความชื้นอยู่ กำจัดขยะจากข้าวของที่เสียหาย และเริ่มเตรียมสุสานเพื่อเสกสุสานในวัน 2-3 พฤศจิกายน ที่จะมาถึงนี้... 

พระเจ้าทรงรู้ทุกอย่างเหมือนบทเพลงตอนหนึ่งที่ว่า “พระองค์รู้ทุกสิ่งอย่างมากหมายล้นเหลือหลาย ที่กระทำท่ามกลางเรา..”

หลายคนคิดว่าเพราะเราเลื่อนวันฉลองน้ำจึงท่วมวันฉลอง แต่หารู้ไม่หากเราไม่เลือนวันฉลองเราอาจจะไม่ได้ฉลองในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 130 ของความเชื่อของเรา... เพราะถ้าเรายังได้วันฉลองเดิมคือเสาร์แรกของเดือนตุลาคม และน้ำท่วมในช่วง 13-15 ก.ย. คือ 2 อาทิตย์ก่อนหน้า เราจะไม่มีกะจิตกะใจเตรียมงานฉลอง จะไม่มีคนมาช่วยเตรียมงานฉลองเพราะโรงเรียนต้องทำความสะอาดโรงเรียนซ่อมแซมโรงเรียน ชาวบ้านก็ต้องทำความสะอาดซ่อมแซมบ้านของตัวเอง วัดก็ต้องทำความสะอาดห้องต่าง ๆ จัดเก็บและซ่อมแซม เมื่อจะต้องมาเตรียมฉลองวัดเราก็คงหมดแรงและหมดใจกันไปแล้ว... พระเป็นเจ้าคงรู้ล่วงหน้าว่าวันที่ 13-15 ก.ย. น้ำจะท่วม และรู้ทุกสิ่งวัดที่ 14 ก.ย. เป็นวันที่เหมาะสมสำหรับวัดของเรา ทั้งสองอย่างนี้เราไม่รู้ ไม่รู้ว่าน้ำจะท่วมวัดเราวันไหน ซึ่งเราก็ไม่อยากให้ท่วม ไม่รู้ว่าวันที่ 14 ก.ย. เป็นวันที่เหมาะสำหรับเราเพราะถ้าเรารู้เราจะไม่บ่นไม่เสียใจที่ไม่ได้ฉลองวันเสาร์แรกของเดือนตุลาคม.....

บทความ : เจ้าวัดแม่พระลูกประคำ บ้านเวียงคุก 2024ภาพ : เพจสื่อมวลชนคาทอลิก สังฆมณฑลอุดรธานี